ประวัติความเป็นมาของตำบล
ตำบลเจดีย์ชัย เดิมขึ้นอยู่กับตำบลแงง โดยมีแสนหลวงชัยมงคล แต่ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้นำการปกครองสืบต่อกันมาจนถึงเมื่อปี พ.ศ. 2523 ขณะนั้น นายก่ำ ขระเขื่อน ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำการปกครองอยู่ มีหมู่บ้านรวมทั้งหมด 15 หมู่บ้าน มีประชากรมากมายและมีลำน้ำปัวไหลผ่านเมือง ทำให้การคมนาคมไม่สะดวก ในการสัญจรไปมา ด้านการพัฒนากลัวจะมีปัญหาเกิดขึ้น พ่อผู้ใหญ่ของ ยะแสง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านวังม่วง พ่อผู้ใหญ่ชื่น มีบุญ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงสนุก และพ่อผู้ใหญ่ขันแก้ว โนจิตร ผู้ใหญ่บ้าน บ้านศาลา จึงได้ปรึกษากันว่าอยากจะขอแบ่งตำบลออกจากตำบลแงง จึงได้เชิญเอาผู้ใหญ่บ้านฝั่งน้ำทางนี้มาหารือกันเมื่อตกลงกันแล้ว ได้ทำเป็นหนังสือคำขอแบ่งเสนอไปแยกออกมาจากตำบลแงง ได้ทำเป็นหนังสือคำแบ่งเสนอไปหากำนันก่ำ ขระเขื่อน เพื่อขอลายเซ็นต์ กำนันก่ำ ขระเขื่อน ก็ไม่ยอมเซ็นต์ ไม่อยากให้แบ่ง ฝ่ายผู้ใหญ่ที่ขอแบ่งจึงได้ปรึกษากัน โดยเฉพาะอีกว่าถ้าหากกำนันไม่เซ็นต์ พวกเราจะไม่ร่วมงานอะไรสักอย่าง กำนันก่ำ ขระเขื่อน เห็นท่าทีกลัวจะไม่เหมาะสมจึงได้เซ็นต์ เมื่อกำนันเซ็นต์แล้ว ก็นำไปเสนอนายอำเภอสมชาย พลเวียง พอดีนายอำเภอสมชาย พลเวียงได้ย้าย จึงค้างเรื่องไว้ จนถึงนายอำเภอทรงพล มะลิกุล มาอยู่ ท่านจึงได้ถามเหตุผล ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้บอกเหตุผลให้ท่านนายอำเภอทราบว่า มีแม่น้ำขวางกั้นการคมนาคมไม่สะดวก เกี่ยวกับการสัญจรไปมาลำบาก กลัวจะยุ่งยากต่อการพัฒนาต่อไป นายอำเภอจึงบอกให้ตั้งชื่อดูและมีผู้ใหญ่ของ ยะแสง เสนอว่าตำบลปงสนุก ส่วนนายอำเภอก็ได้ตอบว่าตำบลปงสนุกก็มีอยู่แล้วจะซ้ำชื่อกัน แพทย์ปัญญา ชราชิต เสนอว่า ตำบลนาเคียน นั้นเป็นแผ่นดินจะหนักหนาอีกต่อมาถามถึงปูชนียสถานใดบ้าง ที่เป็นสิ่งที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ผู้ใหญ่ชื่น มีบุญ เสนอว่าพระธาตุเจดีย์ชัย และ นาชัย นั้นเป็นของเก่าแก่มานานแล้ว จึงยกย่องเอาชื่อว่า ตำบลเจดีย์ชัย ก้อแล้วกัน นายอำเภอ จึงย้อนถามว่า “ชัย” อย่างไร ผู้ใหญ่ชื่นตอบว่า “ชัย” ไม้หันอากาศแล้ว ย.ยักษ์ นั้น นายอำเภอก็รับไปพิจารณา ต่อมาไม่นานก็มีคำสั่งว่า ตำบลแงงได้แบ่งเป็นสองตำบลแล้ว เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2523 ในวันเดียวกันนั้นได้ตรงกับวันประชุมอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 8 หมู่บ้าน และ แพทย์ปัญญา ชราชิต ซึ่งเป็นแพทย์ประจำหมู่บ้าน จึงได้ปรึกษากันในสถานที่แห่งหนึ่ง และเสนอให้ พ่อผู้ใหญ่ของ ยะแสง ขึ้นเป็นกำนัน พอดีพ่อผู้ใหญ่ของไม่รับ เพราะจะเกษียณอายุปีต่อไปแล้ว จึงได้ยกให้พ่อผู้ใหญ่ชื่น มีบุญ เป็นกำนัน ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2523 – พ.ศ. 2528 กำนันชื่น จึงเกษียณอายุ ก็ได้มีการเลือกตั้ง กำนันกำจัดภัย คำเขื่อน ดำรงตำแหน่ง และกำนันอิ่นแก้ว วังแสง จนถึง พ.ศ. 2547 กำนันอิ่นแก้ว วังแสง ก็ได้ลาออก เพื่อลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต่อ ปัจจุบันนี้ นายฤทธิเดช ยะแสง ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกำนันตำบลเจดีย์ชัยจนปัจจุบัน
ตำบลแงงเดิมที่เป็นตำบลแงง โดยมีปูชนียสถานอยู่ คือ พระธาตุดินไหวและเจ้าผีเมืองหนองอ่อม เป็นที่เคารพนับถือและสักการะปู่จาของคู่บ้านคู่เมืองของชาวตำบลแงง ต่อมาได้มีหมู่บ้านมากมายขึ้น และมีประชากรมาก การพัฒนาไม่ทั่วถึง ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2523 จึงได้แบ่งแยกการปกครองออกเป็นสองตำบลเพราะมีลำน้ำขวางกั้นทำให้การคมนาคมไปมาไม่ได้สะดวก จึงได้แบ่งออก โดยยึดเอาลำน้ำปัวเป็นเขตแดนติดต่อและพระธาตุดินไหว ปูชนียสถานเดิมได้ตกอยู่ในเขตตำบลน้องใหม่ ต่อมาชาวตำบลซึ่งตั้งขึ้นใหม่ได้มารวมกันตั้งชื่อ ตำบลใหม่ว่า เราได้พระธาตุดินไหว ซึ่งตกอยู่ในเขตตำบล เลยยกย่องชื่อว่า ตำบลเจดีย์ชัย โดยภายใต้การนำของ นายชื่น มีบุญ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลเจดีย์ชัยคนแรก มีเขตการปกครองอยู่ 9 หมู่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านนาก้อ ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น คือ นายก้องแก้ว ตนภู หมู่ที่ 2 บ้านปง ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายชื่น มีบุญ หมู่ที่ 3 บ้านทุ่งชัยผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ นายเลื่อน เตชะนันท์ หมู่ที่ 4 บ้านศาลาผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายขันแก้ว โนจิตร หมู่ที่ 5 บ้านสบปัว ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายมนตรี ชราชิต หมู่ที่ 6 บ้านดอนแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ชื่อนายต๋า กันยะ หมู่ที่ 7 บ้านวังม่วง ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายของ ยะแสง หมู่ที่ 8 บ้านนาวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายทอง มีบุญ หมู่ที่ 9 บ้านน้ำพุ ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายแก้ว เตชนันท์ แบ่งตำบลมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า หมู่บ้านน้ำพุ จึงได้ย้ายเขตแดน เข้าไปอยู่ในการปกครองของอำเภอท่าวังผา เพราะพื้นที่ตั้งเป็นเขตของอำเภอท่าวังผา ก็คงเหลืออยู่ 8 หมู่บ้าน ต่อมาทางบ้านปง หมู่ 2 มีประชากรเพิ่มมากขึ้น จึงได้แบ่งเป็น 2 หมู่บ้าน คือ บ้านปงหนึ่ง หมู่ 9 ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายทอง แก้วโก